วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หาปลูกไว้ "ต้นพญาสามสิบสองเมีย" สมุนไพรบำรุงสมอง ในงานมติชน เฮลท์แคร์ 2012

วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 21:47:26 น.

เนียมหูเสือ



เท้ายายม่อม



โม่ยตั๋น



สันพร้าหอม



พญาสามสิบสองเมีย




บทความพิเศษ

กลับมาอีกครั้งเป็นปีที่ 4 สำหรับงานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ “มติชน เฮลท์แคร์ 2012” ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 21-24 มิถุนายน 2555 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ห้องเพลนารีฮอลล์, มีทติ้งรูม 1 และ 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนิตยสาร Hospital & Healthcare และสื่อในเครือมติชน จับมือองค์กรหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบธุรกิจด้านสุขภาพ จัดงานครั้งนี้ขึ้นภายใต้ธีม “สมองดี ชีวีสุข”



นอกจากกิจกรรมไฮไลต์ เป็นต้นว่า ตรวจสุขภาพฟรีจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชนชั้นนำ ร่วม 30 รายการ นิทรรศการให้ความรู้เรื่องสุขภาพ เสวนาสุขภาพกับคุณหมอและเหล่าคนดัง, เวิร์กชอปสุขภาพฟรี DIY (Do it yourself) 4 วัน, การจำหน่ายแพ็กเกจสุขภาพและความงามราคาพิเศษจากโรงพยาบาล-สถานเสริมความงาม ชั้นนำ, การจำหน่ายสินค้าคุณภาพเพื่อสุขภาพจากผู้ผลิต รวมทั้งสินค้าดีนาทีทองในราคา 1 บาท ในปีนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเพิ่มเติม เช่น การเปิดห้องตรวจสุขภาพฟันฟรี จากหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ มหาวิทยาลัยมหิดล

นอกจากนี้ ยังมีเกมบริหารสมอง กิจกรรมของสภากาชาดไทย รวมทั้งยังเอาใจขาช็อป เมื่อซื้อสินค้าครบ 500 บาท มีสิทธิ์รับคูปองลุ้นสอยดาวฟรีอีกด้วย

อีกหนึ่งไฮไลต์ในปีนี้คงหนีไม่พ้น มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดยในปีนี้ จะเนรมิตสวนพฤกษศาสตร์กลางกรุงให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ที่สำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด “สมองดี ชีวีสุข” ในปีนี้ สมุนไพรที่จะนำมาจัดแสดงจึงมีตัวชูโรงอย่าง “สมุนไพรบำรุงสมอง” ไม่ต่ำกว่า 30 ชนิด พร้อมกิจกรรมสาธิตการทำขนม ไดฟุกุ สุดยอดขนมสูตรดีท็อกซ์ บำรุงสมอง จากแป้งเท้ายายม่อม การทำวาตะบาล์ม บาล์มบำรุงสมอง การทำชาจากดอกบัวหลวง ที่หอมละมุนอย่าบอกใคร นอกจากนี้ ยังจะขนสินค้าคุณภาพจากสมุนไพรนานาชนิดมาจำหน่ายในราคาพิเศษอีกด้วย 

แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบสมุนไพรบำรุงสมอง บำรุงร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่า เราควรมีไว้คู่บ้าน ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะในปีนี้มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เขาจะนำมาแจกฟรี 4 วัน วันละ 1 ชนิด ได้แก่





พญาสามสิบสองเมีย (เฒ่าบ่เป็น) แค่ฟังชื่อก็คงสะดุ้งแล้วใช่ไหม พญาสามสิบสองเมีย ที่อภัยภูเบศรนำมาแจกในปีนี้ เห็นทีจะเอาใจผู้ชายที่อยากจะสู้กับสมุนไพรสำหรับสาวๆ ในปีที่แล้วอย่าง “สาวร้อยผัว” แน่ๆ พญาสามสิบสองเมียนั้นมีชื่ออื่นๆ ที่รู้จักก็คือ โม่ยตั๋น หมวยตั๋น หอมไก่ และกระดูกไก่

ลักษณะทั่วไป จะเป็นพุ่มไม้ขนาดเล็ก สูงประมาณ 3 เมตร ขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ด พืชชนิดนี้ ชอบขึ้นตามที่ชื้นๆ ใกล้ๆ น้ำตก สมุนไพรชนิดนี้เป็นยาร้อน เหมาะกับผู้หญิงที่ต้องเสียธาตุไฟจากการมีลูกและมีประจำเดือน จึงนิยมใช้กับผู้หญิงหลังคลอดเพื่อชดเชยกับธาตุไฟที่เพิ่งเสียไป แก้ปวดเมื่อยตัวบวม ระบมจากการคลอด นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ชายที่ต้องการบำรุงกำลังเป็นพิเศษ โดยใช้ทั้งต้นซอยตากแห้งดองเหล้าบำรุงกำลัง คนที่อายุน้อยจะกินไม่ได้เพราะจะทำให้ความดันสูง คนที่กินต้องมีอายุ 40 ปีขึ้นไป ยกเว้นคนอายุน้อยที่มีร่างกายอ่อนแอหรือหนาวง่ายเท่านั้นจึงสมควรใช้ยานี้

เท้ายายม่อม ชื่ออื่นๆ คือ ไม้เท้าฤาษี บุกรอ สิงโตดำ ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ล้มลุก มีหัวใต้ดินสะสมอาหาร มีดอกที่สวยงาม คนโบราณใช้หัวทำเป็นอาหารบำรุงร่างกายให้แข็งแรง โดยเฉพาะคนแก่ที่ฟื้นไข้ ควรกินแป้งเท้ายายม่อมร่วมกับน้ำอ้อยหรือน้ำตาลกรวด จะทำให้ร่างกายฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยแก้อาการเบื่ออาหารหลังฟื้นไข้ได้ดีอีกด้วย สำหรับคนทั่วไปการกินแป้งเท้ายายม่อมจะช่วยให้หายอ่อนเพลีย จิตใจชุ่มชื่น แก้ร้อนใน เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เบื่ออาหาร และบำรุงกำลังได้อย่างดี แม้แต่นักโภชนบำบัดสมัยใหม่ก็ยืนยันว่า แป้งเท้ายายม่อมมีคุณสมบัติเหมาะกับระบบทางเดินอาหารของมนุษย์เรามากที่สุด

เมื่อเปรียบเทียบกับแป้งชนิดอื่นๆ ทั้งยังเชื่อว่าการบริโภคแป้งเท้ายายม่อมจะทำให้อารมณ์และจิตใจมีความสมดุล ไม่วิตกกังวลหรือซึมเศร้าจนเกินไป เรียกว่าสามารถทำให้อารมณ์แจ่มใส สมองปลอดโปร่งได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ เท้ายายม่อมยังมีสรรพคุณในการแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย พิษผึ้ง กะพรุนไฟ โดยใช้หัวหรือรากฝนกับน้ำมะนาวทา ใช้โรยปากแผลเพื่อห้ามเลือด โรยถุงเท้าเพื่อป้องกันเชื้อรา ถอนพิษ แก้ผดผื่นคัน ลดสิวฝ้าทำให้หน้าขาว

ส่วนแป้งเท้ายายม่อมในปัจจุบันเริ่มมีการผลิตน้อยลงเรื่อยๆ เพราะคนไม่นิยม แม้ว่าคุณค่าที่แฝงอยู่จะมีมากมายก็ตาม

สันพร้าหอม (เนียมคำพอง) สมุนไพรชนิดนี้บางคนเรียก พอกี่ ลักษณะทั่วไปของสันพร้าหอมเป็นพืชล้มลุก อายุหลายปี มีกลิ่นฉุน สูงได้ถึง 1 เมตร ลำต้นสีน้ำตาลอมแดงหรือสีออกแดง ผิวเกลี้ยง แตกกิ่งก้านสาขาเป็นกอ ปลายใบแหลมหรือมนเล็กน้อย สันพร้าหอมชาวปกากะญอที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เชื่อว่าเป็นสื่อสารวิญญาณเทพจึงขาดไม่ได้เมื่อต้องทำพิธีกรรมในการอัญเชิญ เทวดา นอกจากนี้ ยังนิยมปลูกไว้บริเวณบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล

ในด้านสรรพคุณแล้ว สันพร้าหอมเป็นตำรับสมุนไพรของ “ยาเขียวหอม” ซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ รวมทั้งยาหอมอีกหลายตำรับ หมอยาพื้นบ้านทุกภาคใช้สันพร้าหอมในตำรับยา แก้ไข้ แก้หวัด แก้ลม จุกเสียดแน่นท้อง บำรุงหัวใจ บำรุงโลหิต บำรุงกำลัง แก้ประจำเดือนไม่ปกติ หมอยาไทยใหญ่ยังนิยมใช้สันพร้าหอมในการรักษาลมขึ้นเบื้องสูง ใช้ขยี้ดมแก้ลมชัก ลมงาน แก้ลมมะเฮ็งคุด (ปวดหัวไม่หาย) ใช้เคี้ยวกินเป็นยาระบายอ่อนๆ แก้ร้อนใน ต้มกินเพื่อบำรุงเลือด บำรุงกำลัง

สันพร้าหอม หรือที่คนเชียงใหม่เรียกในชื่อ “เกี๋ยงพาใย” นิยมนำมากินเป็นผักสดแกล้มลาบ นอกจากจะอุดมด้วยวิตามินซีแล้ว ยังเชื่อว่าเป็นยาปรับธาตุ เป็นทั้งยาช่วยระบายหรือแก้อาการท้องร่วงในเวลาเดียวกัน

หูเสือ เป็นผักกลิ่นหอมฉุน รสเผ็ดร้อน มีรสเปรี้ยวแทรกอยู่เล็กน้อย หูเสือไม่ใช่ผักหรือสมุนไพรที่โดดเด่นแต่ก็แปลกที่แทบทุกบ้านจะปลูกหูเสือ เป็นไม้คู่บ้าน คนจีนปลูกไว้เป็นยาแก้ไอ แถบอีสานและเหนือจะปลูกไว้เป็นยาสามัญประจำบ้าน คือเป็นทั้งยาบำรุงเลือดลม บำรุงร่างกาย สมอง ขับน้ำนมหลังคลอดและยังนิยมกินเป็นกับแกล้มอีกด้วย

นอกจากนี้ ในกลิ่นของใบหูเสือยังคล้ายกับเครื่องเทศ “ออริกาโน” ที่ใช้โรยหน้าพิซซ่าอีกด้วย สามารถใช้ใบหูเสือตากในที่ร่มให้แห้งสนิท นำไปบดให้ละเอียดใช้แทนออริกาโนได้เหมือนพี่น้องฝาแฝดเลยทีเดียว

ในปัจจุบันมีการศึกษาทางเภสัชวิทยาพบว่า หูเสือมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ และราอีกด้วย แน่นอนว่า ยาสามัญประจำบ้านอย่าง หูเสือ ย่อมดีต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงร่างกาย ซึ่งส่งผลดีต่อเลือดลมและสมอง

เป็นสมุนไพรเด่นประจำปีที่มีดีกรีบำรุงสุขภาพ เลือดลม และสมอง ที่ควรมีไว้คู่บ้าน ซึ่งหากใครสนใจมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจะนำมาแจกฟรีในงาน มติชน เฮลท์แคร์ 2012 ที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้